สิ่งที่ต้องทำเมื่อไปเที่ยวที่ประเทศสเปน

ประเทศสเปน ประเทศที่มีกว่า 50 จังหวัด

กับเขตการปกครองแบบอิสระกว่า 17 เขต และมีผู้คนที่มีความหลากหลายทางภาษากว่า 5 ภาษา สเปนจึงเป็นประเทศที่มีความแตกต่างมากกว่าที่คุณคิด ยิ่งไปกว่านั้นสเปนไม่ได้มีแค่มหาวิหาร โบสถ์ หรือแหล่ง Shopping ประเทศสเปนเองนั้นยังเป็นประเทศที่ทันสมัย มีพิพิธภัณฑ์ศิลปะระดับโลก

อาหารรสเลิศระดับสากล ที่ท่องเที่ยวยามกลางคืนที่เต็มไปด้วยแสงสีเสียงสุดคึกคัก นั้นเลยกลายเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเวลาไปท่องเที่ยวที่ประเทศสเปนถึงมีอะไรให้ทำมากมายนัก ทั้งลุยๆทั้งสนุก เพราะฉะนั้นเมื่อไปเที่ยวที่ประเทศสเปนแล้วสิ่งที่ควรไปทำมีดังนี้

  1. กินทาปาสฟรี – การกินทาปาส กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของประเทศสเปน มันไม่ได้สำคัญว่าคุณกินอะไรแต่อยู่ที่ว่ากินอย่างไร เจ้าทาปาสมักเป็นอาหารที่มากับเครื่องดื่มเมื่อคุณสั่งตามบาร์ต่างๆ และแน่นอนว่าทาปาสที่ได้มานั้นของฟรีแน่นอน
  2. ดูเต้นระบำฟลาเมงโก ฟลาเมงโกกลายเป็นสิ่งที่มีเอกลักษณ์ในโลกของดนตรีไปแล้ว เพราะเป็นรูปแบบของวัฒนธรรมดนตรีพื้นบ้านที่ยังคงมีมาอยู่ถึงปัจจุบัน ส่วนการเต้นระบำฟลาเมงโกที่ดีที่สุดสามารถพบเจอได้ตามงานแต่งงานของชาวยิปซี ตามบาร์ที่มีการขับร้องเพลงไปด้วยกัน การไปดูระบำฟลาเมงโกเป็นหนึ่งในสิ่งที่ห้ามพลาดมากที่สุดเมื่อไปถึงสเปน   
  3. ตามรอยสถาปัตยกรรม อันตอนี เกาดี้ (Antoni Gaudi) เป็นสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงอย่างมาก ด้วยการออกแบบที่ใจกล้าบ้าบิ่นจึงทำให้มีลักษณะโดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยเป็นสถาปัตยกรรมที่มีคอนเซ็ปจากธรรมชาติ ทำให้มีโครงสร้างที่มีเส้นโค้งงองดงามแปลกตา แนะนำให้มาสัมผัสประสบการณ์จริงด้วยตาของตัวเอง
  4. ดูการต่อสู้วัวกระทิง เป็นกิจกรรมเกี่ยวกับสัตว์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศสเปน ถึงแม้ว่าการต่อสู้วัวกระทิงจะไม่ได้เป็นที่นิยมเฟื่องฟูเท่ากับเมื่อก่อนแต่อย่างไรก็ตามก็มันก็เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์สเปนไปแล้ว บ้างก็ว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์ไม่ควรสนับสนุน แต่เรื่องแบบนี้คุณก็ควรไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งและลองตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ดู
  5. เยี่ยมชมอาลัมบรา (Alhambra) บนเนินเขากรานาดานั้นมีปราสาทและป้อมปราการชื่ออาลัมบราที่ไว้ใช้ป้องกันจากการบุกรุกของชาวคริสเตียนกว่าหลายร้อยปี การไปที่อาลัมบรานั้นคุณสามารถคาดหวังเรื่องวิวได้เลย เพราะคุณจะได้เห็นสวนที่สวยที่สุดในโลก และป้อมปราการที่งดงาม
  6. เรียนภาษาสเปนที่ประเทศสเปน ถ้าคุณมีเวลามากเหลือเกินในมือล่ะก็ ทำไมถึงไม่ลองเล่าเรียนภาษาสเปนดูล่ะ ภาษาสเปนก็เป็นหนึ่งในสี่ภาษาที่มีผู้คนใช้มากที่สุดในโลก เพราะนอกจากที่จะพูดกันในประเทศสเปนแล้วยังใช้พูดกันอเมริกาตะวันตกอีกด้วย ภาษาสเปนเป็นภาษาที่เรียนได้ง่ายอย่างน่าประหลาดใจ

ด้วยสำเนียงที่สามารถออกเสียงได้หลากหลายของภาษาสเปน จึงทำให้การเรียนภาษานี้เป็นเรื่องที่น่าสนุกเพลิดเพลินเลยทีเดียว 

ที่เที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ใกล้ชิดธรรมชาติในช่วงของหน้าหนาว

ท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ช่วงหน้าหนาวอย่างแรกที่พวกเรานึกถึงนั้นก็คือไปชมดอกพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยหรืออาจจะขึ้นดอยไปชมทะเลหมอกงามๆ โดยวันนี้เรามีที่เที่ยวธรรมชาติที่จังหวัดเชียงใหม่ มาฝากกัน

อุทยานแห่งชาติศรีลานนา

ต้องบอกก่อนนะว่าสำหรับอุทยานแห่งชาติศรีลานนานั้นครอบคลุมพื้นที่เป็นเขตของอำเภอพร้าว อำเภอแม่แตง และอำเภอเชียงดาว (ป่าแม่งัด ป่าแม่แตง และป่าเชียงดาว) โดยได้รวมเนื้อที่ได้นั้นก็คือ 652,000 ไร่ ซึ่งมีสภาพโดยรวมเป็นรูปแบบป่าดิบเขา และมีภูมิประเทศเป็นรูปแบบที่มีเทือกเขาสูง โดยมีการสลับซับซ้อนกันทอดตัวเป็นแนวเหนือใต้ และยังเป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารที่ไหลลงสู่แม่น้ำปิงอีกด้วย

ไฮไลท์แห่งอุทยานฯมีดังนี้
  • น้ำตกม่อนหินไหล สำหรับน้ำตกนี้ถือได้ว่าเป็นน้ำตก 9 ชั้น ที่มีลักษณะเป็นตาดหินลาดเขา ซึ่งที่นี่มีแหล่งน้ำไหลตลอดทั้งปี ในแต่ละชั้นนั้นมีลักษณะเด่นด้วยกันและมีความแตกต่างกันออกไป
  • จุดชมวิวที่ไม่ควรที่จะพลาด นั่นคือ ยอดดอยม่อนหินไหล จะอยู่บนน้ำตกชั้นที่ 9 นั่นเอง ซึ่งหากเรานั้นได้ขึ้นไปจะเป็นจุดชมวิวมองเห็นทัศนียภาพที่มีความสวยงามของอำเภอพร้าว และต้องบอกก่อนนะว่าอุทยานแห่งชาตินั้นจะทำการปิดน้ำตกม่อนหินไหลในช่วงระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม – 30 กันยายนของทุกๆปี
  • อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล สำหรับในส่วนตัวโดยโครงการชลประทานที่เป็นเขื่อนแม่งัด – สมบูรณ์ชลนั้น จะมีลักษระเป็นที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม และสามารถชมได้ตลอดทั้งปี ซึ่งจะมีแพพักพร้อมอาหารที่เป็นบริการของเอกชนไว้ให้บริการนั่นเอง
  • สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่น่าไปนั่นก็คือ เช่น น้ำตกห้วยแม่ระงอง น้ำตกห้วยป่าพลู ถ้ำผาแดง เทือกเขาหินปูน เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติบริเวณดอยแม่วะ เป็นต้น

สำหรับนักท่องเที่ยวท่ะไปสถานที่ที่เราแนะนำนั้นต้องบอกว่าจะต้องเป็นคนที่มีความรักในธนนมชาติมากที่สุดเพราะมันเป็นการเดินทางเพื่อไปพบกับเหล่าธรรมชาติโดยตรง โดยเรานั้นจะต้องทำการเดินทางด้วยรถและมีการพักจอดรถและกระทำการเดินทางเท้าเพื่อเข้าไปชมยังสถานที่ต่างๆ

ในการเดินทางก็จะเป็นการเดินทางด้วย 2 ข้างทางที่เราเดินผ่านนั้นจะเป็นป่าเขา เป็นธรรมชาติโดยแท้จริง การเดินทางค่อนข้างจะมีระยะทางของมัน แต่นั้นก็จะเป็นการหายเหนื่อยหากได้ไปถึงนะขจุดชมวิวหรือถึงสถานที่เหล่านั้นเพราะมันคุ้มค่าที่เราจะเดินอย่างแท้จริง แต่หากใครไม่อินกับการเดินนั้นต้องเลือกสถานที่หน่อยนะเพราะบางสถานที่ก็เป็นการเดินทางไกล แต่แบบใกล้ๆก็มีเช่นกัน

ประเพณีบุญบั้งไฟเป็นอย่างไรนะ

วันนี้เรามาทำความเข้าใจกับประเพณีบุญบั้งไฟกัน

เนื่องจากงานประเพณีบุญบั้งไฟหรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าประเพณีบุญขอฝน ประเพณีเหล่านี้เป็นประเพณีของความเชื่อของหมู่บ้านและจะมีวันกำหนดเกี่ยวกับการจุดบั้งไฟเพื่อเป็นการประกวดแข่งขันในงานพิธีอีกด้วย

ประเพณีนี้เป็นการจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นการบูชาเทพเป็นความเชื่อส่วนบุคคลของทางด้านทางภาคอีสาน โดยพวกเขามีความเชื่อในประเพณีเหล่านี้ว่าเทพวัสสกาลเทพบุตร (เทพนี้เป็นเทพที่หน้าที่ในการดูแลเรื่องฝนให้ตกตามฤดูกาล)

ซึ่งมีความเชื่อกันว่า ถ้าไม่จัดงานบุญบั้งไฟ จะทำให้ฝนจะไม่ตก และนอกจากนั้นอาจจะเกิดภัยแก่หมู่บ้านอาจส่งผลให้เกิดภัยพิบัติเกิดขึ้นที่หมู่บ้านนี้ก็ได้

 

สาเหตุหลักที่เหล่าชาวบ้านเรียกงานบุญบั้งไฟนี้ก็เนื่องมาจากในตำนานมีการนำดินปืนมาใส่ที่กระบอกไม้ไผ่แล้วพากันนำไปจุดขึ้นฟ้าจากเหตุการณ์เหล่านั้นจะส่งผลให้เกิดควันและเสียงที่มีความดังมาก

 

สำหรับบั้งไฟนั้นเป็นการเรียกชื่อของทางภาคอีสานความหมายของมันก็คือดอกไม้ชนิดหนึ่งนั้นเองแต่ทว่างานบุญบั้งไฟนี้ก็ไม่ได้มีแค่ทางภาคอีสานเพียงเท่านั้นซึ่งเราจะเห็นได้ว่าภาคอื่นๆก็จะมีการจัดกิจกรรมหรือปะเพณีคล้ายๆกับประเพณีนี้ด้วยเราจะเห็นได้ว่าจังหวัดเพชรบูรณ์  นครสวรรค์ อุทัยธานี นราธิวาส เหล่านี้และจังหวัดอื่นๆที่ไม่ได้เอ่ยถึงก็จะมีการจัดประเพณีคล้ายกันอยู่ด้วยเหมือนกัน

 

การแบ่งประเภทของบั้งไฟได้แก่ บั้งไฟโหวด( ปัจจุบันไม่นิยมทำกันแล้ว )  บั้งไฟม้า บั้งไฟช้าง บั้งไฟแสน บั้งไฟตะไล บั้งไฟตื้อ และบั้งไฟพลุ สำหรับบั้งไฟพลุนั้นจะเป็นทีนิยมกันมากที่สุด เพราะมีสีสันสวยงาม นอกจากจะนำมาจุดในงานบั้งไฟแล้ว ยังนิยมมาจุดในงานพิธีมงคลต่างๆ เช่น งานกิน  งานปีใหม่ ตามงานวัดต่างๆ

 

ส่วนประกอบของบั้งไฟมีดังนี้ เลาบั้งไฟ ( ส่วนที่ทำหน้าที่บรรจุดินปืน )  หางบั้งไฟ (ส่วนนี้สำคัญที่สุดเพราะจะคอยบังคับทิศทางของบั้งไฟว่าจะไปทางไหน )  และลูกบั้งไฟ ( เป็นลำไม้ไผ่ หลายๆอันเอามามัดรวมกัน )

การจัดงานบุญบั้งไฟจะจัดกันส่วนใหญ่เวลาไหน

 

สำหรับการจัดกันในวันวิสาขบูชา กลางเดือนหก จะเป็นการจัดขึ้นในเวลากลางวัน เหล่าชาวบ้านจะนำอาหารมาเพื่อเป็นการทำบุญตักบาตรที่วัดและเป็นการทำฟังพระธรรมเทศนา ซึ่งในวันเดียวกันในเวลาค่ำจะมารวมตัวกันเพื่อเป็นการเวียนเทียนและจะเป็นการดำเนินงานจุดบั้งไฟนั่นเอง ภายในงานที่จัดขึ้นจะมีเหล่าร้านค้าต่างๆไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่เป็นที่ระลึกหรืออาหารการกินแม้กระทั่งกิจกรรมในงาน