พระอาทิตย์ก็เริ่มที่จะลับขอบฟ้าในเส้นทางสายสุดท้ายก่อนที่จะมุ่งเข้าสู่ที่พักที่โอบล้อมไปด้วยทิวเขาจนเราแอบสงสัยไม่ได้ว่าแพกาญจะอยู่ในเส้นทางที่มีลักษณะแบบนี้เราได้มาถึงที่พักในช่วงที่เวลาที่ฟ้าจะมืดลง
ซึ่งสถานที่แห่งนี้ดูจะเซอร์ไพร์ความรู้สึกของเราที่มีต่อแพกาญจนบุรีเราได้เข้าสู่ที่พักในช่วงเวลาที่ร้อนอบอ้าวก่อนที่จะได้สัมผัสอีกมุมหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรีในรูปแบบที่พักระดับไฮเอนในอีกมุมหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรีที่เราไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
ซึ่งครอสทูริเวอร์แควดูจะตอกย้ำความชัดเจนของจังหวัดกาญจนบุรีถึงความเจริญก้าวหน้าทางด้านการท่องเที่ยวอย่างชัดเจนสถานที่แห่งนี้หน้าจะเป็นที่พักหรูหราเป็นอันดับต้นๆในชีวิตของเราทำให้นึกถึงครั้งอดีตที่เดินทางไปยังเขื่อนเชียวหลานในที่พักที่แนบชิดกับธรรมชาติในลักษณะนี้ไม่น่าเชื่อว่าจังหวัดกาญจนบุรีจะแอบซ่อนที่พักที่สวยงามอยู่ชิดติดริมแม่น้ำแควน้อยจนบางทีเราก็แอบสงสัยว่านี่เป็นจุดไหนของจังหวัดกันแน่เราได้เตรียมตัวออกไปกินมื้อค่ำที่ห้องอาหาร
ในขณะที่ได้ปล่อยให้ท้องกิ่วมาทั้งวันและในช่วงเวลาใต้แสงเทียนเพียงลำพังเราก็ได้พบกับพี่คนหนึ่งเขาได้เป็นผุ้จัดการของที่พักแห่งนี้ที่เดินเข้ามานั่งพูดคุยกับเราในระหว่างที่เราได้เดินทางกลับห้องน้องๆที่ได้พักห้องข้างก็ได้ชวนเราไปนั่งดื่มพูดคุยกันเล็กน้อย
แสงอาทิตย์นำพาเข้าสู่วันใหม่เรามองทิวทัศน์ออกไปนอกริมระเบียงก็ยังคงมีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เรานึกถึงเขื่อนเชี่ยวหลานซึ่งนั่นมันก็คงจะเป็นการพายเรือคายัคจากการพายในเขื่อนมาเป็นการพายเรือริมแม่น้ำ
เมื่อในครั้งอดีตเราได้เคยบอกกับตัวเองไว้ว่าสักวันหนึ่งเราจะต้องกลับมายังสถานที่แห่งนี้อีกครั้งหนึ่งเพื่อที่จะพบเจอกับผู้คนที่มีความหมายในวันเก่าๆนั่นมันได้เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เรามักจะไม่เชื่อมต่อกับผู้คนเหล่านั้นผ่านโซเชียลเพราะการอัพเดทสเตตัสของผู้คนในยุคใหม่คงจะทำให้ความคิดถึงที่มีต่อกันนั้นเลือนหายไป
ซึ่งมันได้แตกต่างไปจากสถานที่ที่มีความหมายในวันเก่าน่าแปลกที่เมื่อเห็นรูปเหล่านั้นผ่านโลกโซเชียลแล้วมันกลับทำให้คนเรานั้นคิดที่อยากจะออกเดินทางพเื่อที่จะเข้ามาบรรจบกับสถานที่เก่าในวันใหม่อีกครั้ง
ดังงเช่นสะพานข้ามแม่น้ำแควที่ได้ดึงดูดเราให้เข้ามายังจังหวัดกาญจนบุรีเราได้เตรียมตัวที่จะเข้าสู่การเดินทางครั้งสุดท้ายของวันก่อนที่จะต้องเดินทางกลับอีกกว่าสองร้อยกิโลเมตรเพื่อกลับบ้านพักผ่อนสักที