น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ที่สุดของความงามแห่งขุนเขาลำเนาไพร

     สำหรับน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นนั้นเป็นน้ำตกที่อยู่จังหวัดกาญจนบุรีและอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติริมทะเลสาบเขื่อนศรีนครินทร์โดยน้ำตกแห่งนี้จะต้องเดินทางเข้าป่าลึกไปถึง 108 กิโลเมตรถ้านับจากตัวอำเภอเมืองที่น้ำตกแห่งนี้มีความงดงามจนยากที่จะบรรยายเพราะทั่วบริเวณของน้ำตกเรามักจะเห็นทั้งต้นไม้ทั้งน้ำตกที่ไหลลงมาจากต้นน้ำ

และยังมีแอ่งน้ำของน้ำตกอยู่อีกหลายแอ่งน้ำที่ไหลเป็นเปอร์เซ็นต์เมื่อโดนโขดหินและโดนหน้าผาทำให้น้ำน้ำตกไหมเค้ามินแห่งนี้เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรีเลยทีเดียวแหล่งต้นกำเนิดของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นนี้จะมาจากน้ำที่ตกลงมาจากเทือกเขากลา

ซึ่งบริเวณป่าในพื้นที่เขากลานั้นจะมีลักษณะเป็นป่าดงดิบแบบแล้งชื้นที่สำคัญน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นนี้จะปล่อยให้น้ำไหลผ่านไปยังอ่างเก็บน้ำเพื่อทำการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้งดำน้ำจะถูกกักเก็บไว้ที่เขื่อนศรีนครินทร์และหากใครเคยมาเยี่ยมชมน้ำตกห้วยขมิ้นแล้วก็จะทราบว่าที่น้ำตกแห่งนี้จะประกอบไปด้วยน้ำตกทั้งหมดเจ็ดชั้น

โดยแต่ละฉันทางเจ้าหน้าที่อุทยานได้มีการตั้งชื่อเอาไว้ให้ด้วยเช่นชื่อดงว่าน,ม่านขมิ้น,วังหน้าผา,ฉัตรแก้ว,ไหลจนหลง,ดงผีเสื้อและร่มเกล้า ซึ่งในแต่ละชั้นของน้ำตกก็จะมีความสวยงามความแตกต่างของสภาพน้ำตกที่ไม่เหมือนกันสำหรับที่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นนี้ทางเจ้าหน้าที่อุทยานได้มีการสร้างทางเดินเอาไว้ให้กับนักท่องเที่ยวเพื่อจะได้เดินขึ้นไปดูความงามของนักตบในแต่ละชั้น

และสำหรับน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นนี้จะมีความสวยงามมากที่สุดในช่วงกลางเดือนตุลาคมยาวไปจนถึงเดือนเมษายนแต่อันที่จริงคุณก็สามารถไปเที่ยวน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นรได้ตลอดทั้งปี และหากใครที่ไปเที่ยวน้ำตกห้วยกับแม่ขมิ้นแล้วอยากจะพักชมบรรยากาศนอนฟังเสียงนกร้องในตอนกลางคืนที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์จะมีบริการให้เช่าเต็นท์และห้องพักให้กับนักท่องเที่ยวด้วย

ซึ่งที่นี่จะเปิดเป็นร้านกว้างให้นักท่องเที่ยวได้กลางเต็นท์ตามใจชอบบรรยากาศของที่นี่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ที่จะเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่เอาไว้บดบังแสงแดดให้กับนักท่องเที่ยวแล้วยังปล่อยอากาศบริสุทธิ์ให้เราได้หายใจเข้าไปด้วย สำหรับน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นนั้นมีทั้งหมดเจ็ดชั้นก็จริงแต่ฉันที่ถือว่าสวยงามที่สุดกลับอยู่ที่ชั้นสี่นั่นก็คือฉันที่ชื่อฉัตรแก้วนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกที่ฉันนี้กันมาก

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของจังหวัดสมุทรปราการ

จังหวัดสมุทรปราการ เป็นจังหวัดที่อยู่ติดกับเขตพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร  ซึ่งหลายคนอาจจะไม่รู้ว่าที่จังหวัดสมุทรปราการแห่งนี้นั้น มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายที่ที่น่าสนใจมาก

ดังนั้นวันนี้เราจะมาพาไปชมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของจังหวัดสมุทรปราการกันค่ะ

เริ่มกันที่ตลาดริมน้ำโบราณบางพลี กันก่อน 

ที่ตลาดแห่งนี้ในอดีตเคยเป็นตลาดสำหรับเอาไว้ขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร และบริเวณโดยรอบจะเป็นชุมชนขนาดใหญ่ ซึ่งในสมัยก่อนมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก ปัจจุบันตลาดริมน้ำแห่งนี้ ยังคงมีการรักษาประเพณีและวัฒนธรรมรวมถึงวิถีการดำเนินชีวิตของคนในชุมชนเอาไว้เป็นอย่างดี เพื่อต้องการให้สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ให้กับคนรุ่นหลังได้ทราบวิถีชีวิตของคนในอดีต ที่นี่จะขายทั้งของกินของฝาก ผักและผลไม้มากมาย ซึ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยวมาชมความงามของตลาดน้ำรวมทั้งซื้อของกิน ของฝากได้ทุกวัน ในช่วงเวลา 08.00-16.00 น.

วัดบางพลีใหญ่ใน  เมื่อมาเที่ยวที่จังหวัดสมุทรปราการ

ไม่ควรจะพลาดมานมัสการ หลวงพ่อโต ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสมุทรปราการมาอย่างยาวนาน  ซึ่งหลวงพ่อโตนั้นว่ากันว่า เป็นพระพุทธรูปที่ลอยมาตามน้ำแล้วมาหยุดอยู่ตรงท่าน้ำที่วัดบางพลีใหญ่แห่งนี้ ซึ่งในปัจจุบันวัดแห่งนี้มีผู้คนมากราบไหว้และบนบานหลวงพ่อต่อกันอย่างหนาแน่นทุกวัน  และทุกปี ในวันขึ้น14 ค่ำ เดือน11 ที่คลองติดกับวัดจะมีงานประจำปี เรียกว่า พิธีโยนบัว – รับบัว นักท่องเที่ยวจะนิยมมาร่วมประเพณีนี้กันมาก เพราะเป็นประเพณีที่มีมาอย่างยาวนาน และควรค่าแก่การรักษาเอาไว้

เมืองโบราณ 

สำหรับที่แห่งนี้จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีการจำลองสถานที่สำคัญสำคัญในประเทศไทยทั้งหมดมาไว้ที่นี่เพียงที่เดียว โดยมีการสร้างให้มีรูปร่างและขนาดที่เล็กลงกว่าของจริง ซึงมีการสร้างเอาไว้แล้วมากกว่า 116 แห่ง ไม่ว่าจะเป็น ปราสาทหินพนมรุ้ง  พระธาตุไชยา หรือแม้แต่เขาพระวิหารก็มี 

พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ 

สำหรับที่นี่เด็กผู้ชายคงจะชอบมาเที่ยวเพราะจะเป็นสถานที่จัดแสดง อาวุธของทางกองทัพเรือ โดยมีการจัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชม มีการนำเรือรบจำลอง   เรือหลวงมัจฉานุ และยังมีเรืออื่นอื่นอีกมากมายมาให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน

พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ 

ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเป็นที่จัดเก็บ ศิลปวัตถุโบราณที่หาชมที่ไหนไม่ได้แล้วมาไว้ที่นี่ เป็นการนำมรดกทางวัฒนธรรมมาจัดแสดงให้คนรุ่นหลังได้ดูกัน  และเรายังสามารถชมความงดงามของต้นไม้และดอกไม้นานาพรรณที่มีการปลูกตกแต่งเอาไว้รอบรอบ พิพิธภัณฑ์นั้นเอง

ที่เที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ใกล้ชิดธรรมชาติในช่วงของหน้าหนาว

ท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ช่วงหน้าหนาวอย่างแรกที่พวกเรานึกถึงนั้นก็คือไปชมดอกพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยหรืออาจจะขึ้นดอยไปชมทะเลหมอกงามๆ โดยวันนี้เรามีที่เที่ยวธรรมชาติที่จังหวัดเชียงใหม่ มาฝากกัน

อุทยานแห่งชาติศรีลานนา

ต้องบอกก่อนนะว่าสำหรับอุทยานแห่งชาติศรีลานนานั้นครอบคลุมพื้นที่เป็นเขตของอำเภอพร้าว อำเภอแม่แตง และอำเภอเชียงดาว (ป่าแม่งัด ป่าแม่แตง และป่าเชียงดาว) โดยได้รวมเนื้อที่ได้นั้นก็คือ 652,000 ไร่ ซึ่งมีสภาพโดยรวมเป็นรูปแบบป่าดิบเขา และมีภูมิประเทศเป็นรูปแบบที่มีเทือกเขาสูง โดยมีการสลับซับซ้อนกันทอดตัวเป็นแนวเหนือใต้ และยังเป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารที่ไหลลงสู่แม่น้ำปิงอีกด้วย

ไฮไลท์แห่งอุทยานฯมีดังนี้
  • น้ำตกม่อนหินไหล สำหรับน้ำตกนี้ถือได้ว่าเป็นน้ำตก 9 ชั้น ที่มีลักษณะเป็นตาดหินลาดเขา ซึ่งที่นี่มีแหล่งน้ำไหลตลอดทั้งปี ในแต่ละชั้นนั้นมีลักษณะเด่นด้วยกันและมีความแตกต่างกันออกไป
  • จุดชมวิวที่ไม่ควรที่จะพลาด นั่นคือ ยอดดอยม่อนหินไหล จะอยู่บนน้ำตกชั้นที่ 9 นั่นเอง ซึ่งหากเรานั้นได้ขึ้นไปจะเป็นจุดชมวิวมองเห็นทัศนียภาพที่มีความสวยงามของอำเภอพร้าว และต้องบอกก่อนนะว่าอุทยานแห่งชาตินั้นจะทำการปิดน้ำตกม่อนหินไหลในช่วงระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม – 30 กันยายนของทุกๆปี
  • อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล สำหรับในส่วนตัวโดยโครงการชลประทานที่เป็นเขื่อนแม่งัด – สมบูรณ์ชลนั้น จะมีลักษระเป็นที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม และสามารถชมได้ตลอดทั้งปี ซึ่งจะมีแพพักพร้อมอาหารที่เป็นบริการของเอกชนไว้ให้บริการนั่นเอง
  • สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่น่าไปนั่นก็คือ เช่น น้ำตกห้วยแม่ระงอง น้ำตกห้วยป่าพลู ถ้ำผาแดง เทือกเขาหินปูน เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติบริเวณดอยแม่วะ เป็นต้น

สำหรับนักท่องเที่ยวท่ะไปสถานที่ที่เราแนะนำนั้นต้องบอกว่าจะต้องเป็นคนที่มีความรักในธนนมชาติมากที่สุดเพราะมันเป็นการเดินทางเพื่อไปพบกับเหล่าธรรมชาติโดยตรง โดยเรานั้นจะต้องทำการเดินทางด้วยรถและมีการพักจอดรถและกระทำการเดินทางเท้าเพื่อเข้าไปชมยังสถานที่ต่างๆ

ในการเดินทางก็จะเป็นการเดินทางด้วย 2 ข้างทางที่เราเดินผ่านนั้นจะเป็นป่าเขา เป็นธรรมชาติโดยแท้จริง การเดินทางค่อนข้างจะมีระยะทางของมัน แต่นั้นก็จะเป็นการหายเหนื่อยหากได้ไปถึงนะขจุดชมวิวหรือถึงสถานที่เหล่านั้นเพราะมันคุ้มค่าที่เราจะเดินอย่างแท้จริง แต่หากใครไม่อินกับการเดินนั้นต้องเลือกสถานที่หน่อยนะเพราะบางสถานที่ก็เป็นการเดินทางไกล แต่แบบใกล้ๆก็มีเช่นกัน