Kawasaki Fuji Garden  ที่ประเทศญี่ปุ่น 

 

         สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบดอกไม้ชอบถ่ายรูปกับวิวสวยๆที่ประเทศญี่ปุ่นจะมีสถานที่สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้ชมความสวยงามของดอกไม้อยู่หลายแห่งด้วยกันโดยสถานที่ท่องเที่ยวที่จะพาไปรู้จักกันในครั้งนี้มีชื่อว่า  Kawasaki Fuji Garde   สำหรับสวนแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของจังหวัดฟูกูโอกะซึ่งอยู่ในเมืองคิตะคิวชูโดยที่นี่จะมีการปลูกดอกวิสทีเรียซึ่งเป็นดอกไม้ที่มีชื่อเสียงและมีความสวยงามมากแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว

          สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้นั้นจะมีการปลูกดอกวิสทีเรียเรียงไว้เป็นจำนวนมากซึ่งจะมีทั้งปลูกตลอดแนวทางเดิน 2 ข้างทางและยังมีการทำเป็นแบบซุ้มอุโมงค์โดยนำดอกวิสทีเรียมาทำการปลูกตามซุ้มอุโมงค์ต่างๆซึ่งเวลานับถอยเที่ยวเดินภายใต้อุโมงค์ที่มีดอกของดอกวิสทีเรียเบ่งบานก็จะทำให้รู้สึกเพลิดเพลินและมีความสุขอย่างมากเลยทีเดียวเรียกได้ว่าถ้าหากมาเที่ยวที่Kawasaki Fuji Garden นักท่องเที่ยวจะรู้สึกถึงบรรยากาศราวกับว่ากำลังเดินอยู่ในดวงของดอกไม้หรืออาจจะรู้สึกว่าเหมือนเดินอยู่ในอุโมงค์บนสรวงสวรรค์เลยก็ได้ 

        ดังนั้นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากบรรดานักท่องเที่ยวทั้งจากคนญี่ปุ่นเองและจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ชื่นชอบการถ่ายรูปเพราะไม่ว่าคุณจะเดินมุมไหนภายในKawasaki Fuji Garden แห่งนี้ก็จะมีมุมสวยๆมีวิวสวยๆให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปมากมายเต็มไปหมด

        สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เปิดให้บริการให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมความงดงามได้ครั้งแรกในช่วงปีค.ศ 1977 หลังจากนั้นก็ได้รับความนิยมเรื่อยมาจนถึงในปัจจุบันนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศญี่ปุ่นแห่งหนึ่งและที่สำคัญหากเดินทางมาเที่ยวที่Kawasaki Fuji Garden ไฮไลท์ความสวยงามของสวนแห่งนี้ก็คืออุโมงค์วิทยาซึ่งจะมีดอกวิสทีเรียนั้นห้อยระโยงระยางอย่างสวยงามและอุโมงค์แห่งนี้มีการสร้างเอาไว้ด้วยความยาวถึง 80 เมตรด้วยกันส่วนอีกจุดหนึ่งนั้นก็มีความยาวถึง 220 เมตร 

          อย่างไรก็ตามดอกไม้ชนิดนี้มีมากถึง 22 สายพันธุ์ดังนั้นดอกไม้ชนิดนี้จึงมีหลายเฉดสีที่แตกต่างกันออกไปเมื่อถูกนำมาปลูกไว้รวมกันแล้วจึงสร้างสีสันสวยงามอย่างที่นักท่องเที่ยวอาจจะไม่เคยเห็นความสวยงามที่ไหนมาก่อนโดยมีการปลูกดอกไม้ชนิดนี้ภายในบริเวณKawasaki Fuji Garden  ไว้จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 150 ต้นเลยทีเดียว 

     นอกจากนักท่องเที่ยวจะเพลิดเพลินกับความสวยงามของดอกวิสทีเรียแล้วคุณยังได้ตื่นตาตื่นใจกับการจัดสวนที่มีความยิ่งใหญ่อลังการและคุณจะต้องตื่นเต้นกับการได้เห็นต้นวิสทีเรียซึ่งมีอายุเก่าแก่เกินกว่า 100 ปีอีกด้วย 

 

สนับสนุนโดย.  aesexy

พาเที่ยวจังหวัดน่านไปดูโครงการปิดทองหลังพระนาข้าวขั้นบันได 

        โครงการปิดทองหลังพระนาข้าวขั้นบันได   สำหรับช่วงฤดูของปลายฝนต้นหนาวนั้นมักจะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เกี่ยวกับธรรมชาติมากมายเต็มไปหมดที่มีความงดงามซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะพาไปเที่ยวกันในครั้งนี้อยู่ที่จังหวัดน่าน  และจุดที่จะพาไปเที่ยวนั้นเหมาะอย่างยิ่งเมื่อเราจะเดินทางไปเที่ยวกันในช่วงปลายฝนต้นหนาวนั่นก็คือช่วงประมาณเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน

       ซึ่งมีช่วงนี้นั้นบรรดาชาวเกษตรกรทั้งหลายก็จะมีการออกมาทำนายกันและสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติยอดฮิตกันนั่นก็คือการไปชมการทำนาแบบขั้นบันไดซึ่งที่จังหวัดน่านนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นโครงการปิดทองหลังพระด้วยโครงการนี้ก็คือการที่ชาวนานั้นออกมาทำนายลักษณะของการทำนานั้นจะทำเป็นแบบขั้นบันไดทำให้มีความสวยงามโดยแปลงนานั้นจะมีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่เรียกได้ว่ามีแบบสั้นแบบยาวลดหลั่นกันลงไปทำให้เกิดภาพความสวยงาม

      ซึ่งโดยปกติแล้วการทำนาแบบขั้นบันไดนั้นจะทำบุญที่สูง  โครงการปิดทองหลังพระนาข้าวขั้นบันได  โดยเฉพาะอย่างยิ่งแถวบริเวณภูเขาซึ่งมีความชันเพราะว่ามันจะสามารถทำแบบขั้นบันไดและเมื่อนักท่องเที่ยวมาเห็นนาแบบขั้นบันไดนั้นก็จะได้เห็นภาพที่มีความสวยงามเมื่อเห็นเป็นต้นข้าวที่เป็นสีเขียวและสีเหลืองสลับกันสวยงามแปลกตาอย่างไรก็ตามหานักท่องเที่ยวอยากจะได้บรรยากาศดีๆมีสายหมอกบางๆให้เห็นนั้นจะต้องออกมาชมความงดงามของนาขั้นบันไดในช่วงเวลาเช้าตรู่เรียกได้ว่าคนจะได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์เพราะจังหวัดน่านนั้นเป็นจังหวัดที่ห่างไกลจากมลพิษอีกทั้งเวลาที่เราไปเที่ยวที่เป็นนาแบบขั้นบันไดนั้นก็จะอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ไม่มีควันพิษมารบกวนเพราะอยู่นอกตัวเมืองนั่นเอง

       ซึ่งที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้ศึกษาเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านได้กินอาหารพื้นเมืองและที่สำคัญสถานที่พักนั้นจะไม่ใช่เป็นโรงแรมหรือรีสอร์ทแต่จะเป็นโฮมสเตย์ที่ชาวบ้านไม่มีการเตรียมเอาไว้เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวซึ่งถ้าหากใครเบื่อแสงสีในเมืองกรุงอยากจะไปสัมผัสซึมซับกับธรรมชาติจริงๆแล้วเราก็แนะนำว่ามาพักผ่อนที่โครงการปิดทองหลังพระรับรองว่าถ้าหากได้มานอนสักคืนสองคืนคุณจะหายเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักในเมืองกรุงเลยทีเดียว 

  สำหรับจังหวัดน่านนั้นไม่ได้มีแค่โครงการปิดทองหลังพระอย่างเดียวเท่านั้นแต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเต็มไปหมดไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นพวกวัดวาอารามที่น่าสนใจและสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจดังนั้นถ้าหากใครได้มีโอกาสเดินทางไปที่จังหวัดน่านแนะนำว่าให้คุณแวะศึกษาสถานที่ท่องเที่ยวและลองเที่ยวจังหวัดน่านดูรับรองได้เลยว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่จะทำให้คุณนั้นเพลิดเพลินไม่ต่างกับแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดใหญ่ๆเลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย.    รวมเว็บหวยออนไลน์

แนะนำ 3 สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศนอร์เวย์ที่น่าสนใจ

        สำหรับการแนะนำเกี่ยวกับเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยววันนี้เราจะพาไปรู้จักสถานที่ ท่องเที่ยวในประเทศนอร์เวย์ ที่มีความงดงามและมีความเก่าแก่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานกับ 3 สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเป็นอย่างมากของประเทศนอร์เวย์

    สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกนั้นเราจะพาไปรู้จักกับวิหารเก่าแก่แห่งหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่า  Nidaros Cathedral  สำหรับวิหารแห่งนี้เป็นวิหารที่มีความงดงามเป็นอย่างมากอาจกล่าวได้ว่าในทวีปยุโรปนั้นวิหารแห่งนี้งดงามมากที่สุดเลยก็ว่าได้  ด้วยประวัติความเก่าแก่และความเป็นมาอย่างยาวนานวิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงปีค.ศ 1070 – 1300 

       เมื่อนัก ท่องเที่ยวในประเทศนอร์เวย์ ได้เข้าไปชมวิหารแห่งนี้นั้นจะเห็นได้เลยว่าลักษณะของการก่อสร้างวิหารแห่งนี้นั้นจะมีการใช้สถาปัตยกรรมแบบโกธิคมาในการออกแบบและการก่อสร้างเรียกได้ว่ามีการก่อสร้างแบบวิจิตรบรรจงเป็นอย่างมากนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมความสวยงามทั้งด้านภายในและภายนอกวิหารได้เลย

       สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งที่ 2 ที่น่าสนใจไม่แตกต่างกันนั้นก็คือหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งบนเกาะ  Lofoten โดยที่นี่เป็นหมุ่บ้านชาวประมง มีชื่อเรียกว่า Reine  สำหรับที่นี่เป็นสถานที่ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวเป็นอย่างมากเพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะหลงมนต์เสน่ห์กับความสวยงามของหมู่บ้านแห่งนี้และหมู่บ้านแห่งนี้ก็เป็นหมู่บ้านที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานไปหมู่บ้านดั้งเดิมในยุคแรกๆและไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสร้างบ้าน

         ซึ่งเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงก็จะเห็นวิวของภูเขาและบ้านเรือนของชาวประมงที่ปลูกเข้ามาในทะเลนอกจากนี้ถ้าหากว่านักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวในช่วงฤดูหนาวจะเห็นได้ว่าจะมีหิมะปกคลุมเต็มไปหมดไม่ว่าจะเป็นภูเขาที่มองเห็นแต่เป็นสีขาวโพลนรวมถึงหลังคาบ้านของชาวประมงที่เป็นสีขาวโพลนเช่นเดียวกันในขณะที่สีขาวนั้นจะตัดกับตัวบ้านของชาวประมงที่มีการทาสีแดงเอาไว้เป็นภาพที่สวยงามเหมือนในความฝันเลยทีเดียว 

         สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแหล่งที่ 3 ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือท่าเรือเก่าแก่ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศนอร์เวย์ควรจะแวะมาเช็คอินด้วยท่าเรือดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า Bryggen ซึ่งท่าเรือนี้จะอยู่ในเมือง Bergen สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่ท่าเรือแห่งนี้ก็คือตัวอาคารบ้านเรือนที่ชาวบ้านให้มีการปลูกสร้างเอาไว้เพราะลักษณะของตัวบ้านนั้นจะมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เป็นสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนที่ไหนมาก่อน

     นอกจากนี้ยิ่งมีการทาตัวบ้านนั้นด้วยสีสันที่สดใสเรียกว่ามองไปแล้วเหมือนกับว่าเรากำลังเดินทางมาในดินแดนแห่งลูกกวาดเลยทีเดียวอย่างไรก็ตามพื้นที่นี้ไม่ได้เป็นพื้นที่ที่มีความใหญ่โตมากนักอาคารบ้านเรือนนั้นมีเพียงแค่ 62 หลังเพียงเท่านั้น 

 

สนับสนุนโดย.  hiallbet