เที่ยว”สะพาน 180 ก้าวเมืองพระกันทรวิชัย”

เที่ยว สะพาน 180 ก้าวเมืองพระกันทรวิชัยชมธรรมชาติท่ามกลางดอกบัวนานาพันธ์

ลมหนาวพัดมาแล้วนะสำหรับใครที่กำลังอยากจะไปฟินบรรยากาศที่รับลมหนาวนั้นเราบอกได้เลยว่าสถานที่แห่งนี้ต้องประทับใจหลายคนแน่นอน  และเนื่องด้วยเป็นวันหยุดยาวอีกทั้งการที่เราได้มาสถานที่ท่องเที่ยวตามต่างจังหวัดนั้นบอกได้เลยว่าได้มาสัมผัสบรรยากาศของอากาศเย็นบอกได้เลยว่าฟินอย่างแน่นอน ซึ่งที่นี่นั้นก็คือจังหวัดมหาสารคามถ้าใครได้ผ่านมาที่จังหวัดแห่งนี้อย่าลืมเข้ามาเช็คอินและเข้ามา ว่าสถานที่แห่งนี้มีความสะดุดตาอะไรบ้าง

และมีอะไรที่ทำให้หลายคนอยากที่จะมาเที่ยวที่นี่นั่นเองเพราะสถานที่แห่งนี้ได้เป็นสถานที่ทำให้เหล่านักท่องเที่ยวและหลายคนหรือเหล่านักท่องเที่ยวหน้าใหม่ได้ลองเข้ามาเช็คอินที่นี่เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เปิดใหม่สำหรับของอำเภอกันทรวิชัย ซึ่งได้สร้างขึ้นเพื่อให้เหล่านักท่องเที่ยวนั้นได้เข้ามาเที่ยวที่นี่นั่นเอง

นั่นก็คือสถานที่สะพาน 189 พระกันทรวิชัย พี่บอกได้เลยว่าเป็นสถานที่ชื่นชมเกี่ยวกับธรรมชาติและบอกได้เลยว่าเรายังได้เห็นเราดอกบัวนานาพันธุ์ที่หลายๆพันได้มารวมตัวกันอยู่ที่บึงแห่งนี้นั่นเองและเรายังได้เห็นเรานกเป็ดน้ำที่ได้พัดหมีมาจากประเทศไซบีเรียเพื่อที่จะมาพักที่นี่นั่นเองเป็นนับร้อยตัว   

        ซึ่งในอำเภอของกันทรวิชัยนั้นจังหวัดมหาสารคามได้ออกมากล่าวให้เราได้ฟังว่าอำเภอนี้ได้เป็นการร่วมมือเกี่ยวกับประชาชนและจิตอาสานั่นเองเพื่อที่จะขอรับบริจาคเกี่ยวกับไม้เก่าสำหรับชาวบ้านที่เหลือใช้นั่นเองเพราะเป็นการที่เราระดมเอาเกี่ยวกับกองไม้นั้นมารวมใจกันเพื่อที่จะสร้างเป็นสะพานให้แก่แห่งนี้เพื่อที่ให้เหล่านักท่องเที่ยวหลายๆคนนั้นได้เดินผ่าน

เพื่อที่จะรับบรรยากาศเกี่ยวกับการชมบึงบัวนั่นเองและสถานที่แห่งนี้ได้ขึ้นชื่อว่าสะพานลอย 108 เมืองพระกันทรวิชัยซึ่งสะพานแห่งนี้ได้ถูกสร้างสำหรับเป็นการรวมเนื้อรวมตัวของเหล่าประชาชนและเหล่าจิตอาสาเพื่อที่จะมาทำให้เหล่านักท่องเที่ยวได้เข้ามาพักผ่อนหย่อนใจและสำหรับใครที่ผ่านไปผ่านมาก็สามารถที่จะเข้ามาชมที่นี่ได้และได้มาจะถ่ายรูปเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้นั่นเองบอกได้เลยว่าในอนาคตนั้นทางจังหวัดได้มีความคิดว่าอยากที่จะพัฒนาเกี่ยวกับแหล่งธรรมชาติเพื่อให้เป็นระบบนิเวศหมุนเวียนและยังเป็นแหล่งท่องเที่ยว

สำหรับชุมชนเพื่อที่จะได้กระตุ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจของมหาสารคามให้ดียิ่งขึ้นไปอีกนั่นเองซึ่งสถานที่แห่งนี้บอกได้เลยว่าในช่วงเย็นที่เรามานั่งดูพระอาทิตย์ตกและเรายังได้เห็นเรานกเป็ดน้ำที่บินมาจากไซบีเรียเพื่อที่จะมาพักในช่วงที่มีอากาศเย็นและแน่นอนว่าสถานที่แห่งนี้เมื่อใครได้เข้ามาท่องเที่ยวแล้วจะต้องหยิบ ที่จะเอาขึ้นมาถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกนั่นเอง

และใครมาในช่วงเย็นนั้นบอกได้เลยว่าทำให้มีสีสันอีกทั้งยังทำให้เราได้เห็นเกี่ยวกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม  ส่วนใครที่ผ่านมานั้นเลือกที่จะเข้ามาชมสถานที่แห่งนี้ได้ตลอดเวลานั่นเองแถมยังได้ดูเกี่ยวกับนกไซบีเรียที่บินมาพักอาศัยบริเวณแถวนี้อยู่เป็นจำนวนมากนั่นเองและสะพานแห่งนี้ที่เราได้ตั้งชื่อสะพาน108 ก้าวเมืองพักกันทรวิชัย มันจะมีปัญหาหมายถึงเป็นเมืองพระและยังเป็นเมืองเก่าอีกด้วยนั่นเองถือว่าเป็นเมืองที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองสำหรับเหล่าคนเมืองมหาสารคามนั่นเองเพื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คู่บ้านคู่เมืองของที่นี่

 

สนับสนุนโดย  เวปเจตใหม่

เที่ยวเมืองย้อนยุค เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124 

         เชื่อว่าถ้าหากไม่ใช่คนจังหวัดกาญจนบุรีอาจจะไม่รู้จักสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเมืองย้อนยุคซึ่งมีการจำลองวิถีชีวิตของคนไทยในสมัยโบราณที่อาศัยอยู่ตรงบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา   หากใครที่เคยไปเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีส่วนใหญ่แล้วก็อาจจะไปเที่ยวภูเขาน้ำตกหรือตามแม่น้ำต่างๆมากกว่าแต่ใครจะรู้เลยว่าที่จังหวัดกาญจนบุรีนั้นก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ออกเป็นแนวย้อนยุคให้นักท่องเที่ยวได้ไปศึกษาหาความรู้ได้อีกด้วย

    โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่เราอยากจะแนะนำให้รู้จักกันในวันนี้ก็คือสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวหรือที่เรารู้จักกันในนี้ในนามของเสด็จพ่อ ร. 5  หรือรัชกาลที่ 5 นั่นเอง  สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวนี้มีชื่อว่าเมืองมัลลิกา   ร.ศ. 124   ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อรู้แล้วว่าเมืองแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ยอมเป็นสถานที่ที่เป็นแนวย้อนยุค

และถ้าหากใครเข้าไปชมสถานที่แห่งนี้ก็จะเห็นเลยว่าจะมีการจำลองการใช้ชีวิตของคนไทยในสมัยโบราณซึ่งในสมัยก่อนนั้นผู้คนส่วนใหญ่มักจะมีการปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่ใกล้กับริมแม่น้ำเจ้าพระยาเนื่องจากว่าจะสะดวกในเรื่องของการตักน้ำจากแม่น้ำขึ้นมาใช้งานนั่นเอง 

          และสำหรับการเดินทางมาเที่ยวที่เมืองมัลลิกา  ร.ศ. 124   ซึ่งเป็นเมืองย้อนยุคของคนไทยในสมัยโบราณนั้นนักท่องเที่ยวจะได้พบกับบรรดาชาวบ้านที่มาร่วมเปิดร้านขายของภายในเมืองย้อนยุคแห่งนี้ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเราพวกค้าแม่ค้าทั้งหลายจะมีการแต่งตัวเหมือนกับคนไทย

ในสมัยอดีตซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถที่จะไปขออนุญาตหลวงพ่อค้าแม่ค้าถ่ายรูปได้และภายในเมืองโบราณนั้นก็จะมีการสร้างบ้านให้เหมือนกับคนในสมัยก่อนอาศัยอยู่  โดยมีทั้งบ้านของมหาเศรษฐี  หรือแม้แต่บ้านเรือนไทย  ชมเมืองก็มี  แถมยังมีโรงครัว และ ยังมีย่านการค้า  ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นการจำลองวิถีการใช้ชีวิตของคนไทยในสมัยโบราณได้ออกมาอย่างดีเยี่ยมเลยจริงๆ

        การเข้าไปเยี่ยมชมเมืองย้อนยุค  เมืองมัลลิกา  ร.ศ. 124  แห่งนี้นั้นนักท่องเที่ยวสามารถจะเริ่มเข้าไปเที่ยวได้ตั้งแต่ช่วงเวลา 09:00 น เป็นต้นไปและจะปิดให้บริการในช่วงเวลาตอน  20 :00 น ซึ่งในช่วงเวลากลางวันนั้นนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะไปถ่ายรูปตามจุดต่างๆเนื่องจากว่ายังมีแสงสีสันสวยงามทำให้ภาพนั้นออกมาสวย

  แต่ในขณะเดียวกันถ้าหากเริ่มเย็นๆค่ำๆแล้วเราก็นักท่องเที่ยวสามารถที่จะถ่ายรูปในช่วงเวลากลางคืนพร้อมทั้งรับประทานอาหารภายในเมืองย้อนยุคแห่งนั้นได้เพราะจะมีร้านอาหารซึ่งเป็นร้านที่ออกแบบมาเหมือนกับเปิดร้านในยุคอดีตเลยทีเดียว  

          และถ้าหากใครสนใจที่จะเข้าไปเยี่ยมชมเมืองย้อนยุคแห่งนี้จะต้องมีการเสียค่าเข้าซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะมีชุดไทยให้นักท่องเที่ยวได้เช่าใส่หากสนใจที่จะเข้าไปถ่ายรูปสวยๆเอาบรรยากาศย้อนยุค

 

สนับสนุนโดย  ชุดตรวจ hiv

เทศกาลดอกเบญจมาศบานในม่านหมอก

พาเที่ยวงานประจำปีที่วังน้ำเขียวเทศกาลดอกเบญจมาศบานในม่านหมอก

          สำหรับใครที่ชื่นชอบดอกไม้ไม่ว่าจะเป็นทุ่งดอกไม้   หรือชอบไปเที่ยวเทศกาลดอกไม้แนะนำว่าที่จังหวัดโคราชนี้ก็มีเทศกาลเกี่ยวกับดอกไม้เช่นเดียวกันโดยเทศกาลดอกไม้นี้จะมีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีการจัดขึ้นในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์  โดยในแต่ละปีจะมีการจัดงานขึ้นที่อำเภอวังน้ำเขียวตำบลไทยสามัคคีโดยกลุ่มที่จัดงานนี้ขึ้นมาก็คือองค์กรบริหารส่วนตำบลไทยสามัคคี

          สำหรับงานเทศกาลดอกไม้ที่มีการจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์นั้นจะมีการตั้งชื่องานนี้ว่างานเบญจมาศบานในม่านหมอกซึ่งที่ต้องใช้ชื่อนี้เพราะว่าในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ตำบลไทยสามัคคีนั้นจะมีดอกเบญจมาศขึ้นเยอะมากโดยชาวบ้านจะมีการปลูกเอาไว้เป็นหลายร้อยไร่เลยทีเดียวอาจจะเรียกได้ว่าเป็นทุ่งเบญจมาศเลยก็ว่าได้และดอกเบญจมาศที่ชาวเมืองโคราชปลูกนี้ไม่ใช่แค่สายพันเดียวแต่ชาวบ้านจะมีการนำดอกเบญจมาศมากมายหลายสายพันธุ์แล้วยังเอาหลายสีมาปลูกทำให้เมื่อเวลาดอกเบญจมาศ 1 บานพร้อมๆกันแล้วเกิดความสวยงามเกิดเป็นทุ่งดอกเบญจมาศ 

          นอกจากนี้แล้วชาวบ้านยังมีการนำดอกไม้ชนิดอื่นๆสายพันธุ์อื่นๆโดยเฉพาะดอกไม้ที่เป็นสายพันธุ์เมืองหนาวที่หายากและมีความสวยงามมาปลูกและมาจัดนิทรรศการด้วย  ดังนั้นทางด้านเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลไทยสามัคคีจึงได้มีความคิดว่าควรจะมีการจัดงานขึ้นทุกปีเพื่อที่จะได้เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวงานประจำปีที่ตำบลไทยสามัคคีนี้เป็นการส่งเสริมให้คนรู้จักตำบลหนีกันให้มากขึ้น

           สำหรับภายในงานนั้นนอกจากจะมีสวนดอกเบญจมาศและสวนดอกไม้สายพันธุ์เมืองหนาวอื่นๆแล้วยังจะมีการทำเป็นซุ้มดอกไม้ซึ่งซุ้มดอกไม้นี้จะมีหลายซุ้มเลยเอาดอกไม้หลายสายพันธุ์มาทำซุ้มต่างๆอย่างเช่นซุ้มเบญจมาศก็จะมีแล้วก็จะมีจุดต่างๆที่มีการเอาดอกไม้มาทำเป็นโครงให้นักท่องเที่ยวนั้นสามารถถ่ายรูปเรียกได้ว่าไม่ว่ามองไปทางไหนก็จะเห็นดอกไม้เต็มไปหมดแน่นอนว่าการมาเที่ยวที่งานเบญจมาศบานในม่านหมอกนั้นจะไม่ได้มีแค่ดอกไม้เพียงอย่างเดียวให้ได้งานชาวบ้านยังนำสินค้าอื่นมาวางขายด้วยเช่นผักปลอดสารพิษซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานนั้นได้รับความเพลิดเพลินความสวยงามตาได้ถ่ายรูปสวยๆกับดอกไม้ที่สำคัญยังมีผักปลอดสารพิษกลับไปกินที่บ้านได้อีกด้วย

          และสำหรับใครที่สนใจจะมาร่วมงานก็รอประมาณเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีจะมีการประชาสัมพันธ์ออกมาจากองค์การบริหารส่วนตำบลไทยสามัคคี ประชาสัมพันธ์นั้นก็จะมีการประชาสัมพันธ์ผ่านทาง Facebook ขององค์การบริหารส่วนตำบลและก็ยังมีการประชาสัมพันธ์ตามเว็บไซต์ของจังหวัดของโคราชด้วยว่าจะมีการจัดงานขึ้นในวันที่เท่าไหร่ของแต่ละปี

 

สนับสนุนโดย    สูตรหวยยี่กี หวยดี