อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์

 อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์อยู่ในพื้นที่จังหวัดของแม่ฮ่องสอน

ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมเดินทางมาท่องเที่ยวที่นี่กันเป็นจำนวนมากเพราะต้องการมาเยี่ยมชมความงดงามทางธรรมชาติรวมถึงการถ่ายภาพสวยสวยของน้ำตกและบริเวณสถานที่โดยรอบน้ำตกซึ่งที่นี่จะมีทั้งต้นไม้สัตว์ป่าให้เราได้พบเห็นกันเป็นจำนวนมากสำหรับน้ำตกที่นี่จะเป็นลักษณะของน้ำตกฉันเดียวแต่มีความสวยงามและมีพื้นที่กว้างใหญ่มากโดยตัวน้ำตกจะเป็นหน้าผาสูงซึ่งจะมีน้ำไหลลงมาจากหน้าผาตกลงมาสู่พื้นด้านล่าง

โดยความสูงของน้ำตกแห่งนี้จะอยู่เราราว 200 เมตรถึง 300 เมตรดำน้ำที่ตกลงมาจะตกลงมาอยู่ระหว่างหุบเขาซึ่งหากเราไปยืนตรงจุดที่เค้าจัดเป็นจุดชมวิวแล้วจะเห็นความสวยงามของน้ำตกนี้เป็นอย่างมากจุดชมวิวที่ทางอุทยานในการจัดไว้ให้นั้นจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับน้ำตกซึ่งจะให้วิวที่สวยงามเหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นอย่างมาก

และตรงจุดชมวิวนี้เองทางเจ้าหน้าที่อุทยานได้มีการสร้างศาลาเอาไว้ให้สำหรับนักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อนกินลมชมวิวและมองน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาซึ่งจะให้บรรยากาศที่สวยงามและเป็นธรรมชาติมากซึ่งตรงจุดนี้เป็นจุดที่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากเห็นความสวยของน้ำตกแต่ไม่ต้องการไปใกล้กับจุดที่น้ำตกตกอยู่

สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่อยากมาเที่ยวน้ำตกแม่สุรินทร์แนะนำว่าควรจะมาในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม เพราะในช่วงนี้ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติจะมีการปลูกดอกบัวตองและเป็นช่วงที่ดอกบัวตองกำลังบานสะพรั่งเต็มพื้นที่แลดูสวยงามเป็นอย่างมากและระหว่างทางที่นักท่องเที่ยวจะเดินไปชมความงามของน้ำตกแม่สุรินทร์นั้น

จะต้องเดินผ่านทุ่งดอกบัวตองซึ่งปลูกอยู่ตรงดอยแม่อุคอและบริเวณตรงนี้นักท่องเที่ยวสามารถที่จะกลางนั้นเต็นนอนหรือจะเช่าบ้านพักกับทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติก็ได้       

สำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวน้ำตกแม่สุรินทร์นั้นทางเจ้าหน้าที่อุทยานจะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำเพราะค่อนข้างอันตรายแต่จะเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเพื่อชมความงามของน้ำตกรวมถึงบริเวณโดยรอบน้ำตกที่มีทั้งดอกไม้และต้นไม้นานาพรรณนักท่องเที่ยวสามารถชมความงามเรานั้นได้สำหรับการเดินทางจากจุดพักตรงดอยแม่อูคอ

ไปจนถึงน้ำตกนั้นจะมีความลาดชันและต้องขึ้นเขาลงเขาดังนั้นควรเตรียมรองเท้าผ้าใบสำหรับใส่ในการเดินทางในครั้งนี้จะสะดวกสบายกว่าและใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงจึงควรเตรียมน้ำดื่มเอาไว้ดื่มระหว่างทางด้วยเพื่อป้องกันการหิวระหว่างทาง