การเดินทางท่องเที่ยวที่ อำเภอสังขละบุรี

เย็นวันอังคารผมเดินทางมาที่อำเภอสังขละบุรีหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการพิชิตยอดเขาช้างเผือกก็ได้พักผ่อนกับเมืองที่มันเงียบสงบกับสถานที่ที่อยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิไปเพียงแค่2ชั่วโมง สังขละบุรี เป็นเมืองแห่งสายหมอกดินแดนที่ได้รวมสามวัฒนธรรมของ ไทย มอญ และ กระเหรี่ยงหลังจากที่ได้เลือกโฮสเทลที่พักได้แล้วผมก็ได้มาหาอะไรลองท้องที่ตลาดในยามเย็นของสังขละบุรี

เพื่อพักผ่อนสำหรับการเตรียมตัวออกเดินทางของทริปในวันพรุ่งนี้ ณ เวลาเช้ามืดของวันรุ่งขึ้นก่อนที่พระอาทิตย์จะส่องสงให้เราได้เห็นผลปลุกตัวเองจากความเหนื่อยล้าเพื่อจะนำพาตัวเองนั้นไปยังสพานมอญสะพานแห่งสายหมอกของสังขละบุรีและในเวลาเช้าตรู่ ณ ที่หน้าสะพาน มอญ ชาวบ้านในระแวกนี้ต่างก็ได้พากันออกมาจัดเตรียมสิ่งของสำหรับการทำบุญไหว้พระของเช้าวันนี้เป็นบรรยากาศที่เรานั้น

จะต้องยอกรับมันจริงๆว่าที่นี่เป็นเมืองแห่งสายบุญโดยแท้ ผม ซึ่งเกิดมาในครอบครัวคนไทยแต่มีเชื้อสายจีน ซึ่งวิถีความเป็นอยู่ของคนในบ้านจะเป็นการทำมาหากินอย่างขยันขันแข็งเป็นหลักการปลูกฝังในด้านพุทธศาสนาของบ้านผมจึงค่อนข้างห่างไกลไปจากตัวของผมพอสมควรและในการท่องเที่ยวของผมในครั้งนี้ผมก็คงจะถือโอกาสเพื่อที่จะปลูกฝังตัวเองให้ผมได้พลากสิ่งดีๆในชีวิตนี้น้อยลงไปทีละอย่าง  ชีวิตของเรามันกำลังสั้นลงทุกวินาทีข้อจำกัดของเวลาเป็นสิ่งที่ทำให้การมองโลกนั้น

มันมีค่าและโลกจะสวยงามหรือหมองหม่นก็อยู่ที่ว่าเราจะสร้างความทรงจำอะไรไว้ในชีวิต นี่คือการทำบุญประจำวันที่มันใหญ่ที่สุดเท่าที่ตัวผมเองนั้นได้เคยเห็นมาการทำบุญด้วยตัวคนเดียวครั้งแรกของผมแม้แต่รองเท้าแตะก็ยังลืมถอดแต่ก็ยังได้พี่ด้านข้าง ตักเตือนด้วยรอยยิ้ม ซึ่งเป็นเรื่องง่ายๆที่ทุกคนควรที่จะรู้ในการทำบุญในการเดินทางออกหาประสบการณ์ในชีวิตของผมทำให้ผมเข้าใจในหลายสิ่งหลายอย่างในการหมกหมุ่นทำสิ่งที่ตังเองถนัดเป็นเวลานานนั้นอาจจะทำให้เราขาดสมดุลของการใช้ชีวิตจนตกเป็นเรื่องพื้นฐานของชีวิตเสมอทุกครั้งที่เราได้ก้าวขาออกจากเซฟโซนของตัวเอง

นั่นคือการอ่าแขนรับประสบการณ์นั่นคือการสร้างมิติแห่งการเรียนรู้ที่จะไม่มีวันหมดสิ้นก่อนที่เราจะหมดลมหายใจสะพานมอญเป็นสพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยมีความยาวถึง850เมตรถูกสร้างขึ้นเพื่อข้ามแม่น้ำซองกาเลียเพื่อเชื่อมชาวมอญและชาวสังขละเข้าด้วยกัน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  dewabet